ตุรกีมุ่งมั่นจะนำชิ้นส่วนที่หายไปของโมเสกโบราณ “Gipsy Girl” กลับประเทศ

ความพยายามที่จะค้นหาชิ้นส่วนที่หายไปเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ค้นพบงานโมเสกเลื่องชื่อ “Gipsy Girl” ที่พบในเมืองโบราณ Zeugma ซึ่งต่อมางานโมเสกชิ้นนี้ได้รับความนิยมจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Gaziantep ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีไปแล้ว

โมเสก Gipsy Girl ที่บางคนเรียกว่าโมนาลิซาแห่ง Zeugma ถูกค้นพบเมื่อปี 1999 ถูกนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Zeugma Mosaic Museum ตั้งแต่ปี 2011 พร้อมกับงานโมเสกโบราณอื่นๆอีกจำนวนมากบนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์โมเสกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Gipsy Girl เป็นงานโมเสกโบราณที่ประณีตงดงามมาก โดยเฉพาะดวงตาคมกริบที่สะกดผู้เยี่ยมชมให้ตะลึงงัน นักวิชาการบางคนเชื่อว่าเป็นภาพของเทพีไกอา พระแม่ธรณีในเทพปกรณัมของกรีก ปัจจุบันเธอคือหน้าตาของเมือง Gaziantep ที่ถูกใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อปีที่แล้วยังมีการทำ Baklava ขนมหวานโบราณของตุรกีขนาดยักษ์แต่งหน้าเป็น Gipsy Girl เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวด้วย

gypsy-girl-mosaic-2

เทศบาลเมือง Gaziantep พยายามที่จะทำงานสำคัญในการติดตามชิ้นส่วนจำนวนมากที่ถูกขโมยและขายออกไปโดยพวกลักลอบค้าของเถื่อน ชิ้นส่วนที่หายไปจำนวนหนึ่ง (มีชิ้นสำคัญ 12 ชิ้น) จัดแสดงอยู่ที่ศูนย์ศิลปะ Wolfe Arts Center ของมหาวิทยาลัย Ohio Bowling Green State ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผู้บริหารของเทศบาลมีวัตถุประสงค์ที่จะเรียกร้องเอาชิ้นงานโมเสกที่หายไปกลับคืนมาเพื่อช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยว Fatma Şahin นายกเทศมนตรีของเมือง Gaziantep บอกว่ามันเป็นงานที่ยากลำบากทีเดียว

“ทางมหาวิทยาลัยบอกว่าพวกเขาจะช่วยเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น” Şahin กล่าว “พวกเขาจะต้องส่งชิ้นงานเหล่านี้มาให้เราภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ด้านหนึ่งเราจัดการตามขอบเขตของกฎหมาย ขณะที่อีกด้านหนึ่งมันก็เป็นปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ต่อกัน”

Şahin ยังบอกเพิ่มเติมว่าเธอมีทีมงานพิจารณาหาทางนำชิ้นงานกลับมาสู่ตุรกี โดยมีการดำเนินการทั้งระดับรัฐมนตรีต่อรัฐมนตรี และระดับท้องถิ่นต่อท้องถิ่น

เมืองโบราณ Zeugma ที่ปัจจุบันอยู่ในเมือง Gaziantep สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยกรีกโบราณ ราว 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช และถูกยึดครองโดยจักรวรรดิโรมันในปีคริสต์ศักราช 64

พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งเมือง Zeugma ได้เริ่มการขุดเมืองโบราณในช่วงปลายทศวรรษ 1980 มีการค้นพบสุสานและรูปปั้นจำนวนมาก ปี 1992 ได้เริ่มงานขุดค้นอีกครั้งคราวนี้พบกับงานโมเสกที่งดงาม แต่เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการสร้างเขื่อนที่จะทำให้เมือง Zeugma จมอยู่ใต้น้ำทั้งเมืองเมื่อเขื่อนเสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นจึงต้องย้ายงานโมเสกที่ขุดพบทั้งหมดมาจัดแสดงที่พิพิพิธภัณฑ์

gypsy-girl-mosaic-3

gypsy-girl-mosaic-4

 

ข้อมูลและภาพจาก  dailysabah, wikipedia

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *