13 ตัวเลขกับความเชื่อที่เป็นคู่แข่งของเลข 13

เชื่อกันว่าวันศุกร์ที่ 13 มีอาถรรพ์ เป็นวันแห่งความโชคร้าย ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเจอกับแมวสีดำและทำกระจกแตก เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้โชคร้ายอย่างมาก

ในสังคมตะวันตกมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องตัวเลข 13 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับลางร้ายต่างๆ  จนถึงขนาดมีบางคนจิตตก วิตกจริต หวาดผวาจนขึ้นสมอง กลายเป็น “โรคกลัววันศุกร์ที่ 13” หรือโรคที่มีชื่อเรียกยาวๆว่า “พาราสเคฟดิคาเทรียโฟเบีย” (paraskevidekatriaphobia) หรือโรค “ฟริกกาทริสไคเดคาโฟเบีย” (friggatriskaidekaphobia) ศูนย์จัดการความเครียดและสถาบันบำบัดอาการกลัวในเมืองแอชวิลล์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ประเมินว่า ในแต่ละครั้งที่มีวันศุกร์ที่ 13 สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงินถึง 800-900 ล้านเหรียญสหรัฐทีเดียว เพราะว่าประชาชนบางคนไม่กล้าเดินทางไปไหน ไม่กล้าแม้แต่จะไปทำงาน

แต่มันไม่ได้มีเพียงตัวเลข 13 เพียงตัวเดียวที่ผู้คนซึมซับกันมาโดยปราศจากเหตุผล และต่อไปนี้คือ 13 ตัวเลขที่ผู้คนนิยมยึดถือกัน ไม่ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย

 

4

mandarin-number-4ในภาษาจีนกลาง เลข 4 จะออกเสียงว่า “ซี่” คล้ายมากกับคำว่าตายที่ออกเสียงว่า “ซี๊” ต่างกันที่โทนเสียงเล็กน้อย เสียงที่คล้ายกันได้นำมาซึ่งกลิ่นอายของความโชคร้าย เช่นเดียวกับอาคารในอเมริกาที่จะไม่มีชั้นที่ 13 ในประเทศจีนมักจะไม่มีชั้นที่ 4

ไม่น่าเชื่อว่าความรังเกียจเลข 4 จะมีผลกระทบถึงการจราจรในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากมีการห้ามรถวิ่งเข้าถนนสายหลักในวันที่ตรงกับตัวเลขสุดท้ายในป้ายทะเบียนรถ แต่คนจำนวนมากจะไม่เอาป้ายทะเบียนรถที่มีเลขสี่อยู่ด้วย รถที่มีเลขทะเบียนตัวสุดท้ายเป็นเลขสี่จึงมีจำนวนไม่มาก ดังนั้นในวันที่มีการห้ามเลขสี่จึงมีการจราจรหนาแน่นเป็นพิเศษ

 

8

beijing-olympics-opening-ceremony-88 มีค่าเป็นสองเท่าของ 4 แต่มันเป็นเลขนำโชคของชาวจีน มันมาจากการออกเสียงเหมือนกัน เลข 8 ในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า “ฟา” ซึ่งคล้ายกับคำว่าความมั่งคั่ง

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจัดขึ้นในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 เวลา 8.00 น.

 

 

39

herat-afghanistan-3939 เป็นเลขที่ต้องห้ามในประเทศอัฟกานิสถาน ด้วยเหตุผลที่คลุมเครือ แต่มีเรื่องราวที่เล่าขานกันเกี่ยวกับแมงดาคนหนึ่งที่มีรถป้ายทะเบียนเลขที่ 39 และอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นห้องเลขที่ 39 จนในที่สุดตัวเลข 39 กลายมาเป็นเป็นสัญลักษณ์ของการค้าประเวณีในอัฟกานิสถาน ถึงขนาดที่ผู้คนยอมจ่ายสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับป้ายทะเบียนรถที่มีตัวเลข 39

 

11

eleven-11เลข 11 เป็นเลขที่มีอยู่ทุกแห่งหน หรืออย่างน้อยก็อยู่ในความคิดของผู้คน เลข 11 ได้กลายเป็นจุดสนใจของความเชื่อทางไสยศาสตร์โดยคนที่เชื่อว่าพวกเขากำลังเห็นตัวเลขนี้ในทุกที่ เช่นเหลียวไปเห็นนาฬิกาบอกเวลา 11:11 เป็นต้น  John Hoopes นักประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแคนซัสบอกว่า ตัวเลข 11 อยู่ในจิตใจของผู้คนเพราะมันมีรูปแบบที่น่าจดจำ

 

666

unlucky-numbers-666มันเป็นตัวเลขที่ทรงพลังในศาสนาคริสต์  666 มีพลังอำนาจที่จะทำให้ผู้คนเย็นยะเยือกลงตามกระดูกสันหลัง ตัวเลขนี้ถูกมองว่าเป็นความชั่วร้ายโดยพระคัมภีร์วิวรณ์ 13:18 ดั่งที่คัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์ได้เขียนไว้ว่า ตัวเลขของอสูรคือหกร้อยหกสิบหก

 

 

10

calculator-10เมื่อเด็กน้อยเรียนการนับเลข เป้าหมายคือนับให้ถึง 10 ระบบจำนวนนับของเราใช้ตัวเลขฐานสิบ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะคนเรามีสิบนิ้ว สำหรับคนส่วนใหญ่เลข 10 จึงถือว่าเป็นจำนวนที่ครบสมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่นผู้คนมักจะเฉลิมฉลองวันครบรอบ 10 ปี

เลข 10 ยังปรากฏขึ้นบ่อยครั้งในการปฏิบัติของชาวยิว ซึ่งรวมถึงภัยพิบัติ 10 ประการ และ 10 วันของการสำนึกผิดระหว่างเทศกาลเสียงแตรเขาสัตว์ และวันลบมลทินบาป

 

7

seven-lucky-gods-7เลข 7 เป็นตัวเลขนำโชคในหลายวัฒนธรรม มีการล่าวถึงเลขเจ็ดในพระคัมภีร์ไบเบิลถึง 735 ครั้ง ตามความเชื่อทางศาสนา 7 คือจำนวนวันที่พระเจ้าทรงสร้างจักรวาล จำนวนความมหัศจรรย์ที่พระเยซูสร้างขึ้นในวันประกอบพิธีทางศาสนา และจำนวนการเป่าแตรก่อนที่คนตายจะฟื้นคืนชีพ ในพระคัมภีร์มีเลข 7 มากจริงๆ

7 ยังเป็นเลขนำโชคในประเทศญี่ปุ่นด้วย อันเนื่องจากเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้งเจ็ด ในประเทศจีน 7 ก็เป็นเลขนำโชคเพราะมันออกเสียง “ชิ” ซึ่งคล้ายกับคำ “แก่นแท้ของชีวิต”

 

9

ludwig-van-beethoven-9“คำสาปลำดับที่ 9” เป็นความเชื่อที่ว่านักประพันธ์เพลงซิมโฟนีจะสามารถเขียนเพลงซิมโฟนีได้เพียง 9 เพลงเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีอาถรรพ์และนักประพันธ์จะตาย

ลุดวิจ ฟาน เบโทเฟน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด มันเป็นความจริง เขาตายหลังจากเขียนเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9 ได้ไม่นาน ส่วนกรณีของกุสตาฟ มาฟ์เลอร์ ใครๆก็คิดว่าเขาจะสามารถรอดพ้นจากคำสาปนี้ แต่เขาก็มาตายเสียก่อน หลังจากเขียนซิมโฟนีหมายเลข 10 ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

 

 

 

3

holy-trinity-33 เป็นเลขของความโชคดี ในพระคัมภีร์มันเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ (พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์)

3 ยังเป็นเลขนำโชคในประเทศจีน และเป็นจำนวนที่สำคัญในลัทธิเต๋าและศาสนาพุทธ มี 3 คุณธรรมขั้นพื้นฐานในลัทธิเต๋า (ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความประหยัด และความเมตตา) และ “พระรัตนตรัย” ในศาสนาพุทธซึ่งเป็นตัวแทนของสามสิ่งที่ชาวพุทธใช้เป็นที่พึ่ง (พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์)

 

12

last-supper-mosaic-12เช่นเดียวกับ 3 เลข 12 เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ มันปรากฏในพระคัมภีร์หลายครั้ง ตั้งแต่ลูก 12 คนของยาโคบไปจนถึง 12 สาวกของพระเยซู มีเทพเจ้า 12 องค์ตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณ และมีชื่อของสุริยเทพในศาสนาฮินดู 12 ชื่อ

ในทางคณิตศาสตร์ 12 ยังเป็นตัวเลขพิเศษเพราะมันเป็นเลขที่มีตัวประกอบมากกว่าเลขอื่นๆ (12 หารด้วย 1, 2, 3, 4, 6 และ 12 ลงตัว)

 

26

indian-ocean-tsunami-26ในประเทศอินเดีย 26 เป็นตัวเลขที่ไม่เป็นมงคล ส่วนใหญ่มาจากพื้นฐานของความบังเอิญ คลื่นสึนามิขนาดใหญ่เมื่อปี 2004 เข้าถล่มเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 คนในประเทศอินเดีย ในปี 2001 รัฐคุชราตเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 26 มกราคม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 13,000 คน ในปี 2008 ก่อการร้ายโจมตีในเมืองมุมไบ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ฆ่าผู้คนไป 164 คน

 

Pi

pi-day3.14159265359…. Pi เป็นตัวเลขสำคัญทางคณิตศาสตร์ มันเป็นอัตราส่วนของเส้นรอบวงของวงกลมกับเส้นผ่าศูนย์กลาง แต่ Pi ได้รับความสนใจยิ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เพราะได้มีการกำหนดวันหยุด Pi Day ขึ้นคือวันที่ 14 มีนาคม (3/14) ซึ่งได้เริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ซานฟรานซิสโกเมื่อ 28 ปีที่แล้ว แต่มันได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญในปี 2009 เมื่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติสนับสนุนวันหยุดนี้ (บางทีพวกเขาแค่อยากจะมีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิมด้วยการกินขนมพาย)

 

42

hitchhiker-guide-galaxy-42มันเป็นตัวเลขที่โด่งดัง มาจากนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง The Hitchhiker’s Guide to The Galaxy แต่งโดย Douglas Adams เรื่องมีอยู่ว่ามีการป้อนคำถามเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ฉลาดที่สุดชื่อ Deep Thought ว่า “อะไรคือคำตอบของชีวิต จักรวาล และทุกๆสิ่ง?” หลังจากที่ใช้เวลาคำนวณอยู่ 7.5 ล้านปี Deep Thought ตอบโจยท์ข้อนี้ว่า “42”

มีหลายคนได้พยายามอธิบายว่าทำไม Adams ผู้เขียนเรื่องถึงได้เลือกเลข 42 เป็นคำตอบ มีทฤษฎีต่างๆมากมาย แต่ Adams บอกว่าตอนที่เขียนเขาแค่นึกถึงเลขตัวนี้เท่านั้น มาถึงตอนนี้ มันเลยกลายเป็นมุกที่เวลาเจอคำถามอะไรที่ตอบไม่ได้ ก็ตอบ 42 ไว้ก่อน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *