นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาป่าไม้ในไอร์แลนด์ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงปี 2012 พื้นที่ป่าได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,316 ตร.กม. หรือคิดเป็น 10.5% ของพื้นที่ประเทศซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 350 ปี แต่นั่นก็ยังห่างมากจากค่าเฉลี่ยของประเทศในยุโรปซึ่งอยู่ที่ระดับมากกว่า 30%
โครงการปลูกป่าขนาดมหึมาของไอร์แลนด์นี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายปลูกป่าให้ครอบคลุมพื้นที่ 8,000 ตร.กม. เพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยเข้าสู่บรรยากาศ
ต้นไม้ที่ปลูกจะเป็นไม้ใบเล็กพวกต้นสน (Conifers) ราว 70% และอีกราว 30% จะพวกไม้ใบใหญ่ (Broadleaf Tree) สำหรับพวกไม้ใบเล็กคาดว่าปลูกจำนวน 2,500 ต้นต่อ 1 เฮกตาร์ (พื้นที่กว้างยาวด้านละ 100 ม.) ส่วนไม้ใบใหญ่ปลูกจำนวน 3,300 ต้นต่อ 1 เฮกตาร์
แผนการนี้ถูกประกาศราว 2 เดือนหลังการเผยแพร่ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่าการปลูกต้นไม้ให้ได้มากกว่า 5 แสนล้านต้นเป็นวิธีแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศของโลกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะสามารถทำได้ทันที ลงทุนไม่สูงมาก และสามารถกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากบรรยากาศได้ราว 25% ซึ่งจะทำให้ลดลงเป็นระดับเดียวกับเมื่อเกือบ 100 ปีก่อน
แต่อย่างไรก็ตามการปลูกต้นไม้เพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ผลเลยหากไม่มีการลดการปล่อยมลพิษเข้าสู่บรรยากาศ ดังนั้นต้องดำเนินมาตรการลดการปล่อยมลพิษอย่างเข้มข้นควบคู่กันไปด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดแทน เช่น การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (พลังงานลม, พลังงานแสงอาทิตย์ ฯลฯ) และใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เป็นต้น
ข้อมูลและภาพจาก irishtimes, ecowatch