เฉพาะในเดือนตุลาคม 2017 การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนในอังกฤษที่ประกอบด้วยพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำรวมกันมีสัดส่วนถึง 25% ของทั้งหมดเป็นสถิติใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากพายุ Ophelia และพายุ Brian ถัดจากเดือนตุลาคมฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งใหม่ชื่อ Dudgeon ก็เริ่มเปิดใช้งาน
การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมในอังกฤษระหว่างปี 2016 และ 2017 เพิ่มขึ้นถึง 14 เทราวัตต์-ชั่วโมง มากพอสำหรับ 4.5 ล้านครัวเรือน ซึ่งเทียบกันแล้วมากกว่าการผลิตไฟฟ้าทั้งปีจากหนึ่งในสองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ที่ Hinkley Point C
ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งไม่เพียงเติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้น ราคาก็ยังถูกลงมากด้วย การประมูลสัญญาจ้างผลิตไฟฟ้าคาร์บอนต่ำรอบสุดท้ายของปีที่แล้ว มี 2 สัญญาที่ผลิตด้วยพลังงานลมชนะประมูลด้วยราคาเพียง 57.5 ปอนด์ต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งถูกกว่าราคาจากโรงไฟฟ้าที่ Hinkley Point ที่ได้ราคา 92.5 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (ราคาปี 2012)
ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องมา 12 ปีแล้ว เพราะอังกฤษใช้สินค้านำเข้า (ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในการผลิตแฝงอยู่) มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ ทำให้ในปี 2017 อังกฤษใช้ไฟฟ้าเท่ากับปี 1987 ทั้งที่มีพลเมืองเพิ่มมากขึ้น
ในอนาคตข้างหน้าแนวโน้มนี้จะพลิกกลับไปอีกครั้งเมื่อยานพาหนะไฟฟ้าและฮีตปั๊มถูกใช้อย่างแพร่หลาย รถไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถที่ใช้น้ำมัน และฮีตปั๊มที่ใช้ไฟฟ้าแทนที่ฮีตเตอร์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ
อังกฤษใช้เชื้อเพลิงสะอาดในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงตอนนี้การผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล (ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ) เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว มีสถิติที่น่าสนใจของอังกฤษเกี่ยวกับ “coal free” หรือการไม่ใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าเลย ปี 2016 มีจำนวน 200 ชั่วโมง และในปี 2017 มีถึง 613 ชั่วโมง
ข้อมูลและภาพจาก theconversation, sciencealert