‘RFM’ วิธีวัดไขมันในร่างกายแบบใหม่ที่ง่ายกว่าแม่นยำกว่าจนลืม ‘BMI’ ไปได้เลย

การวัดค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI (Body Mass Index) เป็นวิธีการตรวจสอบว่าแต่ละคนอ้วนเกินไปหรือผอมเกินไปที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นวิธีการใหม่ที่ทำได้ง่ายกว่าและให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องแม่นยำกว่าได้แล้วเรียกวิธีใหม่นี้ว่า RFM (Relative Fat Mass index)

ทีมวิจัยที่ศูนย์การแพทย์ Cedars-Sinai ประเทศสหรัฐอเมริกาผู้อยู่เบื้องหลัง RFM บอกว่านอกจากมันจะถูกต้องแม่นยำกว่า BMI แล้ว มันยังใช้เพียงแค่สายวัดตัวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีตาชั่ง โดยทำการวัดระยะรอบเอวกับความสูงก็พอ ไม่ต้องชั่งน้ำหนัก RFM สามารถบอกเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายได้ดีกว่า

“เราต้องการวิธีที่เชื่อถือได้ ทำได้ง่าย และไม่แพงในการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน” Orison Woolcott หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว “RFM เป็นวิธีวัดไขมันในร่างกายได้ดีกว่าวิธีอื่นทั้งหลายที่ใช้ในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน รวมทั้งวิธี BMI ด้วย”

การวัดด้วย BMI คุณจะต้องใช้ค่าน้ำหนักหน่วยเป็นกิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงหน่วยเป็นเมตรยกกำลังสอง แล้วนำค่าที่ได้ไปเปรียบเทียบกับตาราง ค่า BMI ปกติอยู่ระหว่าง 18.5 – 25 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ยอมรับว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ เพราะมันไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างเพศ มันไม่ได้สะท้อนมวลกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง รวมทั้งผลที่ได้ก็อาจเบี่ยงเบนไปสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

สำหรับการวัดโดยวิธี RFM ให้คุณนำค่าส่วนสูงและรอบเอวมาใส่ในสูตรคำนวณข้างล่างนี้

RFM = 64 – (20 x ส่วนสูง/รอบเอว) สำหรับผู้ชาย

RFM = 76 – (20 x ส่วนสูง/รอบเอว) สำหรับผู้หญิง

นักวิจัยได้ใช้ข้อมูลจากผู้ใหญ่กว่า 12,000 คนและตรวจสอบสูตรต่างๆที่อาจเป็นไปได้กว่า 300 สูตร และพบว่าสูตรคำนวณค่า RFM ตามข้างต้นให้ผลลัพธ์ดีที่สุด มีการตรวจสอบเปรียบเทียบค่า RFM กับการวัดค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายโดยใช้เครื่อง DXA body scan จากข้อมูลของผู้ป่วย 3,456 คนพบว่ามีค่าใกล้เคียงกันมาก และดีกว่าวิธี BMI อย่างชัดเจน (ดูผลตามรูปด้านล่าง)

relative-fat-mass-2

นำค่า RFM ของเราที่คำนวณได้จากสูตรไปเปรียบเทียบกับตารางเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายด้านล่างก็จะทราบทันทีว่าสถานะของเราเป็นอย่างไร อ้วนหรือผอมเกินไปหรือไม่

relative-fat-mass-3

ดังนั้นทีมวิจัยจึงหวังว่า RFM จะถูกใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก รวมถึงผู้ที่มีเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในการติดตามระดับไขมันในร่างกายได้ดีกว่าเดิม แม้ว่าตอนนี้ยังคงต้องทำวิจัยเพิ่มเพื่อให้มั่นใจว่า RFM ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องแม่นยำสำหรับผู้คนทุกกลุ่มทุกกรณี และหากมันได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงก็คงจะถึงเวลาบอกลา BMI เสียที

 

ข้อมูลและภาพจาก  cedars-sinai.org, sciencealert

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *