มหาวิหาร Sagrada Familia ได้รับใบอนุญาตเสียทีหลังก่อสร้างมานาน 136 ปี

มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) แลนด์มาร์กสำคัญที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งเมืองบาร์เซโลนา เริ่มก่อสร้างมานานถึง 136 ปีแต่ยังไม่เสร็จ โดยที่ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด บัดนี้คณะกรรมการของโบสถ์ได้ทำข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์กับผู้บริหารของเมืองบาร์เซโลนาซึ่งจะทำให้มหาวิหารได้รับใบอนุญาตก่อสร้างถูกต้องแลกกับการจ่ายเงินมากถึง 36 ล้านยูโรตลอดทศวรรษหน้า

ซากราดาฟามีเลียเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1882 ตามการออกแบบของสถาปิก Francisco de Paula del Villar y Lozano ซึ่งได้ลาออกในปี 1883 จากนั้นสถาปนิก Antoni Gaudi ได้เข้ามารับงานออกแบบต่อ เขาใช้เวลากับการออกแบบมหาวิหารแห่งนี้กว่า 40 ปีจนกระทั่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถรางชนในปี 1926 ร่างของเขาถูกฝังอยู่ในโบสถ์น้อย Our Lady of Mount Carmel ในห้องใต้ดินของซากราดาฟามีเลีย

แม้ Gaudi จะเสียชีวิตไปแต่ผู้ร่วมงานของเขาได้สานงานทำโครงการต่อไปโดยอาศัยรูปถ่าย ภาพร่าง และแบบจำลองที่ Gaudi ทำไว้ ปี 1936 โครงการต้องหยุดชะงักเพราะสงครามกลางเมืองในสเปน ห้องใต้ดินและแบบจำลองละเอียดถูกเผาทำลาย เมื่อสิ้นสุดสงครามทีมงานก็กลับมาทำงานกันต่อโดยอาศัยภาพร่าง ภาพถ่าย และแบบจำลองอื่นๆที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย

sagrada-building-permit-2

แม้ว่ามหาวิหารซากราดาฟามีเลียจะยังสร้างไม่เสร็จแต่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมจำนวนมากถึงปีละ 20 ล้านคน โดยมีผู้เข้าชมภายในมหาวิหารถึงปีละ 4.5 ล้านคน และข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้มีขึ้นเพื่อรองรับกองทัพนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาชมมหาวิหารนั่นเอง

เงิน 36 ล้านยูโรในข้อตกลงจะถูกนำไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่การสร้างระบบขนส่งสาธารณะใหม่ (22 ล้านยูโร), ปรับปรุงเส้นทางระหว่างมหาวิหารกับรถไฟใต้ดิน (7 ล้านยูโร), ปรับปรุงถนนสายหลัก 4 สาย (4 ล้านยูโร) และใช้สำหรับการดูแลรักษาความสะอาดของเมืองและจ้างเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (3 ล้านยูโร)

โครงการก่อสร้างซากราดาฟามีเลียมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2026 ซึ่งจะครบรอบ 100 ปีการเสียชีวิตของ Gaudi พอดี อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับได้คงจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกจากจำนวนในปัจจุบันจนกว่าจะถึงเวลานั้นซึ่งคาดว่างานปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกจะแล้วเสร็จเช่นกัน

sagrada-building-permit-3

 

ข้อมูลและภาพจาก newatlas, dailymail.co.uk

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *