ยัน ฟัน ไอก์ จิตรกรต้นแบบเทคนิคสีน้ำมันผู้สรรค์สร้างภาพเขียนได้เหมือนจริงราวภาพถ่าย

ยัน ฟัน ไอก์ (Jan van Eyck) เป็นศิลปินคนสำคัญและเป็นหนึ่งในผู้สร้างจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์เริ่มแรกซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการเริ่มต้นยุคเรอเนสซองส์ในอิตาลี เขาเป็นคนแรกๆที่ได้พัฒนาเทคนิคการเขียนภาพด้วยสีน้ำมันจนได้ผลงานที่ยอดเยี่ยม ภาพเขียน The Arnolfini Portrait ซึ่งเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขานั้นได้รับการยกย่องให้เป็นภาพต้นแบบและมีความซับซ้อนมากที่สุดภาพหนึ่งของจิตรกรรมตะวันตก ยัน ฟัน ไอก์มีผลงานภาพเขียนแนวศาสนาชั้นยอดมากมายโดยเฉพาะภาพฉากประดับแท่นบูชาเกนต์ (Ghent Altarpiece) รวมทั้งยังเป็นจิตรกรที่เขียนภาพเขียนเหมือนบุคคลได้ยอดเยี่ยมที่สุดอีกคนหนึ่งด้วย เขาคือหนึ่งในจิตรกรที่โดดเด่นที่สุดแห่งศตวรรษที่ 15

 
จิตรกรราชสำนักฮอลแลนด์และเบอร์กันดี

jan-van-eyck-portraits-03

 
ยัน ฟัน ไอก์ เป็นชาวเฟลมิช เกิดเมื่อราวปี 1395 ที่เมือง Maaseik ปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยียม พี่น้องของเขาทั้งพี่ชาย (Hubert) น้องชาย (Lambert ) และน้องสาว (Margareta) ล้วนเป็นจิตรกร โดยเฉพาะพี่ชายซึ่งเป็นคนที่ฝึกฝนฝีมือการเขียนภาพให้กับเขานั้นถือเป็นศิลปินใหญ่คนหนึ่งที่เป็นผู้บุกเบิกจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์ยุคเริ่มแรก ไม่มีบันทึกใดๆเกี่ยวกับชีวิตในช่วงต้นของฟัน ไอก์เลย บันทึกเก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาเป็นเอกสารการจ่ายเงินให้กับเขาในช่วงระหว่างปี 1422 – 1424 ในฐานะจิตรกรราชสำนักฮอลแลนด์ ภายใต้ดยุกแห่งบาวาเรีย John III the Pitiless และเขามีส่วนร่วมในงานตกแต่งพระราชวัง Binnenhof ที่กรุงเฮกใหม่ด้วย

หลังจาก John III เสียชีวิตในปี 1425 ฟัน ไอก์ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองบรูชซึ่งเป็นเมืองหลวงของเขตเฟลมิช เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นจิตรกรราชสำนักเบอร์กันดีภายใต้ Philip the Good ผู้ปกครองเบอร์กันดี และยังเป็นสมาชิกอาวุโสในสมาคมจิตรกรแห่งเมือง Tournai ด้วย ฟัน ไอก์เป็นผู้ที่เฉลียดฉลาดมีความคิดสร้างสรรค์ มีการศึกษาดี และชอบเดินทาง เขาจึงมักได้รับภารกิจเป็นนักการทูตให้กับเจ้านายอยู่บ่อยครั้ง เมื่อปี 1428 เขาถูกส่งไปยังโปรตุเกสเพื่อเขียนภาพ Isabella of Portugal ซึ่งเป็นภรรยาในอนาคตของ Philip the Good ฟัน ไอก์ได้รับเงินเดือนสูงจากการเป็นจิตรกรราชสำนักและได้ค่าตอบแทนที่ดีจากการเป็นทูต รวมทั้งยังรับงานเขียนภาพอีกต่างหาก เขาจึงมีฐานะดีจัดเป็นชนชั้นสูงคนหนึ่ง ฟัน ไอก์แต่งงานกับ Margaret ซึ่งอยู่กับเขาจนกระทั่งเขาเสียชีวิต เพื่อแสดงการยกย่องและนับถือต่อฟัน ไอก์ผู้จากไป Philip the Good ได้ให้เงินแก่ Margaret เป็นจำนวนเท่ากับเงินเดือนของเขาทั้งปี

 
สานต่อพี่ชายกลายเป็นผลงานยิ่งใหญ่

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-01

 
Hubert พี่ชายของฟัน ไอก์ได้เริ่มงานเขียนภาพฉากประดับแท่นบูชาเกนต์ (Ghent Altarpiece) ซึ่งเป็นงานสร้างบานพับภาพที่ใหญ่มากเมื่อราวกลางทศวรรษ 1420 แต่เขามาเสียชีวิตในปี 1426 ฟัน ไอก์ได้สานต่องานของพี่ชายจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1432 กลายเป็นผลงานยิ่งใหญ่อมตะได้รับการยกย่องเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปะยุโรปและเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของโลก

ฉากประดับแท่นบูชาเกนต์มีขนาด 4.6 x 3.4 เมตร ประกอบด้วยภาพเขียน 12 ภาพเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ แต่ละภาพมีรายละเอียดซับซ้อนงดงามจับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพตรงกลางด้านบน 3 ภาพอันประกอบด้วยภาพ The Almighty, Virgin Mary และ John the Baptist นั้นงามวิจิตรพิสดารมาก ทั้งตัวบุคคล เสื้อผ้า เครื่องประดับ อัญมณี ทุกองค์ประกอบสวยงามสมบูรณ์แบบอย่างหาที่ติไม่ได้ เมื่อปิดบานพับจะมีขนาด 2.6 x 3.75 เมตร ด้านหลังเขียนภาพแบบจิตรกรรมเอกรงค์หรือภาพเขียนที่ใช้สีเดียวทั้งภาพอีก 10 ภาพซึ่งมีความสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ฉากประดับแท่นบูชาเกนต์เคยถูกอดอล์ฟ ฮิตเลอร์สั่งยึดไปเก็บไว้ที่เยอรมันระยะหนึ่งก่อนจะได้รับกลับคืนมา มีภาพส่วนหนึ่งเสียหายและมีบานพับบางบานถูกขโมยไปจนต้องมีการบูรณะและคัดลอกภาพใหม่ทดแทน

 
ภาพเขียนชิ้นเอกเหมือนจริงราวภาพถ่าย

jan-van-eyck-portraits-01

 
นอกเหนือจากเขียนภาพแนวศาสนาได้อย่างงดงามจับใจแล้ว ฟัน ไอก์ยังเขียนภาพเหมือนบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย และภาพเขียนบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขาคือภาพ The Arnolfini Portrait ฟัน ไอก์เขียนภาพนี้ในปี 1434 เชื่อกันว่าเป็นภาพเหมือนของโจวันนี อาร์นอลฟีนี (Giovanni Arnolfini) พ่อค้าจากเมืองลูคคา ในอิตาลีกับภรรยาที่กำลังท้อง ในห้องที่อาจจะเป็นที่พำนักในเมืองบรูช มณฑลฟลานเดอส์ ประเทศเบลเยียม

The Arnolfini Portrait เป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนไม้โอ๊คขนาด 82.2 × 60 ซม. ถือกันว่าเป็นภาพเขียนต้นแบบและมีความซับซ้อนมากที่สุดภาพหนึ่งของจิตรกรรมตะวันตก The Arnolfini Portrait เป็นภาพเขียนที่สวยงามมีมิติน่าประทับใจจากรายละเอียดต่างๆในภาพที่เหมือนจริงมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล เสื้อผ้า โคมไฟระย้าทองเหลือง กระจกนูน แม้กระทั่งรองเท้าแตะ โดยเฉพาะการใช้แสงและการสร้างช่องว่างภายในของภาพสามารถทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเป็นภาพของห้องและผู้ที่อยู่ในห้องนั้นจริงๆ หอศิลป์แห่งชาติแห่งลอนดอนซื้อภาพเขียนนี้ในปี 1842 ด้วยราคาเพียง 600 ปอนด์เท่านั้น

 
ทศวรรษแห่งความสำเร็จและรุ่งโรจน์

jan-van-eyck-portraits-02

 
ช่วงเวลาหลังจากเสร็จงานเขียนภาพฉากประดับแท่นบูชาเกนต์ถือเป็นช่วงสูงสุดในชีวิตการเป็นจิตรกรของยัน ฟัน ไอก์ เพราะเป็นช่วงที่เขาสร้างผลงานชั้นยอดออกมาอย่างต่อเนื่องมากมาย นอกเหนือจากาพ The Arnolfini Portrait ที่เป็นผลงานขั้นสุดยอดของเขาแล้ว ผลงานที่หลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบันสร้างขึ้นระหว่างปี 1431 -1441 แทบทั้งสิ้น แม้แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปในปี 1441 ยังมีผลงานชิ้นเยี่ยมออกมาอีกหลายภาพซึ่งเชื่อกันว่าเป็นงานที่ฟัน ไอก์ทำค้างเอาไว้ในสตูดิโอแล้วลูกศิษย์หรือผู้ช่วยของเขาได้ทำต่อจนเสร็จ

ภาพเขียนแนวศาสนาของฟัน ไอก์สวยงามยอดเยี่ยมทุกภาพด้วยฝีมืออันวิจิตรประณีตและมีมิติสมจริง ที่โดดเด่นมากๆได้แก่ภาพ The Annunciation, Madonna of Chancellor Rolin, Madonna and Child with Canon Joris van der Paele และ Virgin and Child with Saints and Donor เป็นต้น ส่วนด้านภาพเหมือนบุคคลก็เช่นเดียวกันทุกภาพงดงามเกินบรรยาย อย่างเช่นภาพ Man in a Red Turban ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากและเชื่อกันว่าเป็นภาพเหมือนของฟัน ไอก์เอง หรือภาพ Portrait of a Man with a Blue Chaperon, Portrait of Jan de Leeuw และ Portrait of Margaret van Eyck ล้วนเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมน่าประทับใจทั้งสิ้น

 
จิตรกรต้นแบบผู้พัฒนาเทคนิคสีน้ำมัน

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-04

 
ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 16 จิตรกรนิยมใช้สีฝุ่นเทมเพอรา (Tempera) ในการเขียนภาพ แม้ว่าจะมีค้นพบและใช้สีน้ำมัน (Oil) มาก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว เข้าใจว่าเป็นเพราะยังไม่มีผู้ใดพัฒนาเทคนิคที่สามารถดึงเอาศักยภาพอันโดดเด่นในการเขียนภาพของสีน้ำมันออกมาได้นั่นเอง ยัน ฟัน ไอก์ถือเป็นคนแรกๆในประวัติศาสตร์ที่ได้พัฒนาเทคนิคการใช้สีน้ำมันเขียนภาพจนได้ผลงานที่ยอดเยี่ยม สีน้ำมันจึงเริ่มเป็นที่นิยมและเข้ามาแทนที่สีฝุ่นเทมเพอราตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา

จากผลงานของเขาตั้งแต่ภาพฉากประดับแท่นบูชาเกนต์มาถึงภาพ The Arnolfini Portrait และผลงานภาพอื่นๆเห็นได้ชัดว่าฟัน ไอก์ได้พัฒนาเทคนิคการใช้สีน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ ทำให้ภาพมีความโดดเด่นด้วยความมันวาวมีประกายของเสื้อผ้า ความแวววาวของอัญมณีที่เหมือนจริงมาก ดวงตาของคนที่มีประกายแวววาวดูมีชีวิตชีวา เส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงการให้แสงและเงาที่ทำให้เกิดมิติสมจริง ฟัน ไอก์ได้พัฒนาสิ่งเหล่านี้จนทำให้ภาพเขียนของเขามีความงดงามจับใจ

ผลงานอมตะของตำนานศิลปินยุคเก่า
 
อาจเป็นเพราะความเป็นนักเดินทางและความประณีตในการสร้างสรรค์งานฟัน ไอก์จึงมีผลงานน้อยชิ้น แต่ทุกชิ้นล้วนเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งภาพเหมือนบุคคคลที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และภาพเขียนแนวศาสนาที่วิจิตรละลานตา และต่อไปนี้คือภาพเขียนสำคัญทั้งหมดของเขาที่ยังหลงเหลืออยู่

Portraits

jan-van-eyck-portraits-01

The Arnolfini Portrait

jan-van-eyck-portraits-02

Man in a Red Turban

jan-van-eyck-portraits-03

Portrait of a Man with a Blue Chaperon

jan-van-eyck-portraits-04

Portrait of Jan de Leeuw

jan-van-eyck-portraits-05

Portrait of Margaret van Eyck

jan-van-eyck-portraits-06

Léal Souvenir

jan-van-eyck-portraits-07

Portrait of a Man with Carnation

jan-van-eyck-portraits-08

Portrait of Baudouin de Lannoy

jan-van-eyck-portraits-09

Portrait of Cardinal Niccolò Albergati

jan-van-eyck-portraits-10

Portrait Of Giovanni Arnolfini

jan-van-eyck-portraits-11

Portrait of Isabella of Portugal

Ghent Altarpiece

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-01

The Ghent Altarpiece (opened view)

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-02

The Ghent Altarpiece (closed view)

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-03

The Almighty

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-04

Virgin Mary

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-05

John the Baptist

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-06

Musical Angels

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-07

Adam and Eve

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-08

Just Judges and the Knights of Christ

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-09

Adoration of the Mystic Lamb

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-10

The Holy Hermits and The Holy Pilgrims

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-11

The Archangel Gabriel

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-12

The Virgin Annunciate

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-13

Jodocus Vijdt

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-14

Lysbette Borluut

jan-van-eyck-ghent-altarpiece-15

St John the Baptist and St John the Evangelist

Religious Paintings

jan-van-eyck-religious-paintings-01

The Annunciation

jan-van-eyck-religious-paintings-02

Madonna of Chancellor Rolin

jan-van-eyck-religious-paintings-03

Madonna and Child with Canon Joris van der Paele

jan-van-eyck-religious-paintings-04

The Lucca Madonna

jan-van-eyck-religious-paintings-05

Madonna in the Church

jan-van-eyck-religious-paintings-06

Ince Hall Madonna

jan-van-eyck-religious-paintings-07

Virgin and Child with Saints and Donor

jan-van-eyck-religious-paintings-08

Madonna at the Fountain

jan-van-eyck-religious-paintings-09

Crucifixion & Last Judgment

jan-van-eyck-religious-paintings-10

Saint Jerome in His Study

jan-van-eyck-religious-paintings-11

Saint Francis Receiving the Stigmata

jan-van-eyck-religious-paintings-12

Saint Barbara

jan-van-eyck-religious-paintings-13

Portrait of Christ

jan-van-eyck-religious-paintings-14

The Dresden Triptych

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วเกือบ 600 ปีแต่ผลงานของยัน ฟัน ไอก์ยังคงตราตรึงประทับใจของผู้คนหลายยุคหลายสมัยจวบจนปัจจุบัน และแม้ว่าเขามีผลงานจำนวนค่อนข้างน้อยแต่ผลงานทุกชิ้นล้วนยอดเยี่ยม เขายังเป็นผู้พัฒนาเทคนิคสีน้ำมันจนต่อมาได้รับความนิยมและแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน ยัน ฟัน ไอก์ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในจิตรกรที่โดดเด่นที่สุดแห่งศตวรรษที่ 15 และเป็นหนึ่งในศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของโลกตลอดกาล

jan-van-eyck-2

 

ข้อมูลและภาพจาก wikipedia, jan-van-eyck.org, oil-painting-techniques

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *