เด็กหญิงมากพรสวรรค์ด้านเขียนภาพ
โซโฟนิสบา อังกิสโซลา เป็นชาวอิตาลี เกิดเมื่อราวปี 1532 ที่เมือง Cremona ไม่ไกลจากเมืองมิลานทางตอนเหนือของอิตาลี เธอเป็นพี่คนโตในตระกูลขุนนางระดับล่างที่มีฐานะไม่สู้ดีนักแถมมีลูกดก เป็นผู้หญิงถึง 6 คนและคนสุดท้องเป็นผู้ชาย ในสมัยนั้นผู้หญิงถูกกีดกันด้านการศึกษามาก โดยเฉพาะด้านการเขียนภาพหากไม่ได้เป็นลูกสาวของศิลปินที่สามารถสอนลูกของตัวเองได้ก็แทบไม่มีโอกาสได้เรียน เพราะไม่ค่อยมีศิลปินคนไหนรับผู้หญิงเป็นลูกศิษย์ แต่โชคดีที่พ่อของอังกิสโซลาเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้า เขาส่งเสริมด้านการศึกษาของลูกๆทุกคนเป็นอย่างดี โดยให้ทุกคนได้ศึกษาในด้านที่ถนัดและสนใจ
พออังกิสโซลาอายุได้ 14 ปีพ่อส่งเธอไปเรียนกับ Bernardino Campi จิตรกรภาพเหมือนฝีมือดีในเมืองบ้านเกิด ต่อมา Campi ย้ายไปอยู่เมืองอื่นเธอจึงไปเรียนกับ Bernardino Gatti จิตรกรฝีมือดีอีกคนหนึ่งของเมือง Cremona อังกิสโซลาเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านการเขียนภาพสูงมาก มีจุดเด่นที่การถ่ายทอดบุคลิกลักษณะของบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม มีฝีมือเข้าขั้นมืออาชีพตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเห็นได้จากภาพ Self-portrait with Bernardino Campi ที่เขียนตอนอายุแค่ 18 ปี ภาพนี้เป็นภาพเหมือนตัวเองที่ไม่ธรรมดาเพราะเธอจัดองค์ประกอบภาพเป็นว่าอาจารย์กำลังเขียนภาพเหมือนของเธอ แต่ภาพตัวเธอดูโดดเด่นกว่าภาพอาจารย์ นักวิชาการบางคนคิดว่าเธอสื่อความหมายถึงว่าอาจารย์กำลังสร้างเธอให้ยิ่งใหญ่กว่าตัวอาจารย์เอง
พัฒนาฝีมือสร้างชื่อเสียงที่เมืองหลวง
ปี 1554 อังกิสโซลาในวัย 22 ปีได้เดินทางไปกรุงโรมเพื่อศึกษาหาประสบการณ์และพัฒนาฝีมือการเขียนภาพของตัวเอง เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการร่างภาพฉากและผู้คนที่พบเห็น กระทั่งมีจิตรกรคนหนึ่งที่ชื่นชอบในฝีมือของเธอได้แนะนำให้เธอรู้จักกับ Michelangelo ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคซึ่งอยู่ในวัยเกือบ 80 ปีแล้ว พอเขาได้ชมผลงานของเธอก็เห็นถึงพรสวรรค์ในตัวอังกิสโซลา เขาจึงทะยอยให้ภาพร่างในสมุดบันทึกของเขาแก่เธอเพื่อให้เธอวาดออกมาในสไตล์ของเธอและให้คำแนะนำต่อผลงานที่เธอวาดออกมา อังกิสโซลาได้รับการสอนจาก Michelangelo อย่างไม่เป็นทางการแบบนี้อยู่ราว 2 ปี
แม้อังกิสโซลาจะมีพรสวรรค์สูงแต่ด้วยการที่เธอเป็นผู้หญิงจึงไม่มีโอกาสได้ศึกษากายวิภาคศาสตร์ เพราะในสมัยนั้นถือว่าผู้หญิงไม่สามารถดูภาพเปลือยได้ การเขียนภาพศาสนาและภาพประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยความเข้าใจกายวิภาคศาสตร์ที่ซับซ้อนจึงเป็นข้อจำกัดสำหรับเธอ แต่เธอได้พัฒนาสไตล์ของตัวเองในการเขียนภาพเหมือนและภาพชีวิตประจำวันจนมีความสวยงามโดดเด่นและมีชีวิตชีวา ในช่วงระหว่างนี้อังกิสโซลาได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและมีชื่อเสียงมากที่สุดออกมาจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นภาพเหมือนตัวเองและภาพคนในครอบครัว ได้แก่ ภาพ Self-portrait at an Easel, The Game of Chess, Portrait of the Artist’s Family และ Portrait of Bianca Ponzoni Anguissola, the artist’s mother เป็นต้น
จิตรกรราชสำนักแห่งสเปนในวัยเยาว์
หลังจากสร้างผลงานจนมีชื่อเสียงในฐานะศิลปินดาวรุ่งของวงการ ในปี 1558 อังกิสโซลาได้เดินทางไปเมืองมิลานเพื่อเขียนภาพให้กับดยุคแห่งอัลบา (Duke of Alba) ขุนนางคนสำคัญของสเปน และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเธอ ดยุคแห่งอัลบาได้แนะนำเธอต่อกษัตริย์ Philip II แห่งสเปน และในปีต่อมาอังกิสโซลาได้รับเชิญให้ไปทำงานให้กับราชวงศ์สเปน จิตรกรสาวในวัยยี่สิบตอนปลายจึงไปทำงานที่ราชสำนักสเปนในกรุงมาดริดในปี 1560 เธอรับตำแหน่งเป็นจิตรกรราชสำนักและเป็นนางสนองพระโอษฐ์ รวมทั้งเป็นครูสอนศิลปะให้แก่พระราชินีองค์ใหม่ Elisabeth of Valois ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 14 ปีและเป็นนักเขียนภาพเหมือนสมัครเล่น อังกิสโซลามีความสัมพันธ์ที่ดีและได้รับการชื่นชมจากพระราชินีเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากการให้คำแนะนำด้านศิลปะแก่พระราชินีรวมถึงลูกๆของพระองค์ อังกิสโซลาได้เขียนภาพของสมาชิกในราชวงศ์สเปนจำนวนมากมีผลงานที่โดดเด่นได้แก่ภาพ Portrait of Philip II of Spain, Portrait of Elisabeth of Valois, Portrait of Joanna of Austria และ Portrait of Anna of Austria หลังจากที่พระราชินีเสียชีวิตไปในปี 1568 อังกิสโซลายังคงทำงานในฐานะจิตรกรราชสำนักแห่งสเปนต่อไปโดยกษัตริย์ Phillip II ให้การดูแลเธอเป็นอย่างดี ในปี 1571 กษัตริย์ Philip II ได้ช่วยจัดการให้เธอได้แต่งงานกับขุนนางสเปนชาวซิซิลี จากนั้นเธอได้ย้ายไปอยู่ที่ซิซิลีในปี 1573 โดยยังคงได้รับเงินบำนาญจากทางราชสำนักสเปนซึ่งทำให้เธอสามารถทำงานเขียนภาพและสอนจิตรกรรุ่นใหม่ได้ต่อไป ในช่วงเวลานี้อังกิสโซลามีผลงานเด่นอย่างเช่นภาพ Portrait of the Infanta Isabella Clara Eugenia และอาจรวมถึงภาพ Lady in a Fur Wrap ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นผลงานของเธอ หรือ El Greco หรือ Alonso Sánchez Coello กันแน่
ยอดศิลปินหญิงแห่งยุคเรอเนสซองส์
ปี 1579 สามีของอังกิสโซลาเสียชีวิต หลังจากนั้นสองปีเธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับเมือง Cremona แต่ระหว่างที่นั่งเรือกลับบ้านเกิดชีวิตของเธอเกิดพลิกผันอีกครั้ง เมื่อเธอได้พบรักกับ Orazio Lomellino กัปตันเรือลำนั้น หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็แต่งงานกันและไปอยู่ที่เมืองเจนัวซึ่งครอบครัวสามีของเธอตั้งรกรากอยู่ที่นั่น อังกิสโซลามีชีวิตการแต่งงานที่มีความสุขมากแต่ไม่มีลูกด้วยกัน สามีเธอให้การสนับสนุนงานเขียนภาพของเธออย่างเต็มที่ เขาช่วยจัดหาสตูดิโอเขียนภาพและให้เวลาในการเขียนภาพตามที่เธอต้องการ และประกอบกับเธอมีเงินบำนาญที่ได้รับจากราชสำนักสเปน อังกิสโซลาจึงมีชีวิตสุขสบายทำงานเขียนภาพอย่างอิสระไม่ต้องกังวลด้านการเงิน
ระหว่างอยู่ที่เจนัวอังกิสโซลายังคงเขียนภาพให้กับตระกูลขุนนางและบุคคลชั้นสูง รวมทั้งภาพเหมือนตัวเองที่เธอทำมาตลอดชีวิต ผลงานที่โดดเด่นในช่วงเวลานี้ได้แก่ภาพ Three Children with Dog, Portrait of the Infanta Isabella Clara Eugenia และ ภาพ Self-Portrait (1610) ซึ่งเขียนในวัยเกือบ 80 ปีแล้ว เป็นต้น ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมและชื่อเสียงที่สั่งสมมาเป็นเวลานานจนกลายเป็นจิตรกรหญิงคนดังแห่งยุคที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ระยะหลังจึงมีศิลปินรุ่นใหม่มาเยี่ยมและศึกษาสไตล์การเขียนภาพของเธออยู่เสมอ รวมทั้ง Anthony Van Dyke ศิลปินดังยุคต่อมา หลังจากอยู่ที่เมืองเจนัวนาน 35 ปีอังกิสโซลาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองปาแลร์โม เธอเสียชีวิตที่นั่นในปี 1625 ด้วยวัย 93 ปี
ผลงานโดดเด่นของศิลปินหญิงคนดัง
อังกิสโซลาเป็นจิตรกรที่มีผลงานภาพเหมือนและภาพชีวิตประจำวันที่ยอดเยี่ยมมาก เธอเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงในยุคเรอเนสซองส์ไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับทัดเทียมกับศิลปินชาย ผลงานส่วนใหญ่ของเธอเป็นภาพเหมือน เธอยังเป็นจิตรกรที่เขียนภาพเหมือนตัวเองไว้มากที่สุดในยุคนั้น และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของผลงานที่โดดเด่นของศิลปินหญิงคนดังผู้นี้
Early Works & Rome Period (1550 – 1560)
Madrid Period (1560 – 1573)
Sicily & Genoa Period (1573 – 1590)
Later Years (1590 – 1610)
ในยุคเรอเนสซองส์ที่มีการกีดกันมิให้ผู้หญิงได้เป็นจิตรกรมืออาชีพด้วยความเชื่อด้านข้อจำกัดทางเพศ ดังนั้นจึงแทบไม่มีศิลปินฝ่ายหญิงคนใดที่มีผลงานโดดเด่นได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ โซโฟนิสบา อังกิสโซลาเป็นหนึ่งในจิตรกรหญิงเพียงน้อยนิดที่สามารถฝ่าด่านความเชื่อของยุคสมัยด้วยความโชคดีและพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศจนสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมาย และกลายเป็นศิลปินหญิงที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุคเรอเนสซองส์
ข้อมูลและภาพจาก wikipedia, newworldencyclopedia, artherstory