ปีที่ผ่านมาหลังจากที่สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส Xie Zhenhua เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสภาพภูมิอากาศของจีนได้ออกมายืนยันว่าพันธสัญญาของจีนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง และบัดนี้ Zhenhua ได้ประกาศว่าจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโลกได้บรรลุเป้าหมายการลดความเข้มของคาร์บอน (carbon intensity) ของปี 2020 ไปเรียบร้อยแล้ว เป็นการทำสำเร็จก่อนกำหนดถึง 3 ปีเต็ม
จีนได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนต่อจีดีพีเทียบกับระดับของปี 2005 ลง 40 – 45% ภายในปี 2020 Zhenhua รายงานในที่ประชุมในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2018 ว่าจีนลดการปล่อยคาร์บอนต่อจีดีพีเทียบกับระดับของปี 2005 ได้ 46% ในปีที่แล้ว
ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งสำคัญ ถึงมันไม่ได้หมายความว่าจีนปล่อยคาร์บอนทั้งหมดลดลง แต่มันบ่งบอกว่าระบบเศรษฐกิจของประเทศกำลังมีประสิทธิภาพเพิ่มสูงมากขึ้น Zhenhua ให้เครดิตในการลดการปล่อยคาร์บอนกับระบบการค้าขายแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก (Emissions Trading System) ที่รัฐบาลจีนจัดตั้งขึ้นและเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2011 ในบางจังหวัด
จีนได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำหลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาในเรื่องหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการลดการปล่อยคาร์บอน จีนเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุดในโลก ขณะที่เศรษฐกิจเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯเท่านั้น
ประเทศจีนมีแผนให้การปล่อยคาร์บอนไปถึงระดับสูงสุดในปี 2030 แล้วจะเริ่มลดลง แม้ว่าจีนยังคงลงทุนอย่างหนักในพลังงานหมุนเวียนร่วมกับมาตรการต่างๆอันทรงประสิทธิภาพ เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะบรรลุเป้าหมายก่อนกำหนด
แม้ว่าจีนกำลังพยายามดำเนินการเพื่อบรรลุผลตามข้อตกลงปารีส แต่นักอนุรักษ์บางคนยังเป็นห่วงในเรื่องที่เมื่อเร็วๆนี้จีนได้ตัดสินใจถ่ายโอนปัญหาสภาพภูมิอากาศไปให้หน่วยงานใหม่รับผิดชอบแทนหน่วยงานเดิมซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้งานล่าช้าได้
ข้อมูลและภาพจาก scienceaf, thehill