แม้ว่า eTree จะไม่สามารถให้ร่มเงาและอากาศบริสุทธิ์ได้เหมือนกับในหุบเขา แต่มันยังมีบริการอื่นอีก ที่ลำต้นของไม้ใหญ่ได้ติดตั้งจอ LCD ที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ มีจุดชาร์จไฟสำหรับอุปกรณ์พกพาทั้งหลาย ที่สำคัญมี wifi ให้ใช้ฟรีอีกต่างหาก
นอกจากนี้ยังจัดคูลเลอร์น้ำเย็นไว้บริการและไม่ลืมที่จะจัดรางน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ดื่มกินอีกด้วย ตอนกลางคืนใต้ใบไม้มีหลอดไฟส่องสว่างให้กับพื้นที่ในบริเวณนี้ ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ทุกอย่างได้มาจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนใบไม้ทั้งหมด
เมือง Nevers ที่มีประชากร 37,000 คนเป็นแห่งแรกในยุโรปที่ได้ทดลองติดตั้งเทคโนโลยีนี้ eTree เป็นผลงานของ Sol-logic บริษัทสตาร์ทอัพจากอิสราเอล ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากต้นอาเคเชียที่มีอยู่ในทะเลทรายและทุ่งหญ้าสะวันนาในทวีปอัฟริกา
ต้นแบบของ eTree เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ที่อิสราเอล หนึ่งปีต่อมาได้รับการคัดเลือกให้ไปจัดแสดงที่งานประชุมของสหประชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ COP 21 ที่กรุงปารีส ปัจจุบันได้รับการติดตั้งไปแล้วในเมืองต่างๆ 10 แห่งในประเทศอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา
ด้วยการออกแบบที่นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานให้กลมกลืนกับธรรมชาติของ eTree ทำให้นึกถึง Wind Tree ต้นไม้กังหันลมเทคโนโลยีสุดเจ๋งของบริษัท NewWind ในฝรั่งเศสที่ได้นำเอาความทันสมัยมาผสมผสานกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนด้วยเช่นเดียวกัน
ชมวิดีโอแนะนำ eTree ได้ที่ด้านล่าง
ข้อมูลและภาพจาก sol-logic, newsweek