ตอนนี้จีนกำลังพยายามแก้ปัญหามลภาวะโดยการจัดการกับผู้ก่อมลพิษด้วยการลงโทษขั้นรุนแรง ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาโรงงานในประเทศจีนราว 40% ถูกสั่งปิดชั่วคราวโดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย มีพนักงานของโรงงานกว่า 80,000 แห่งถูกจับกุมด้วยข้อหาปล่อยมลพิษเกินกำหนด บางส่วนถูกจำคุก
รัฐบาลจีนประกาศในสัปดาห์นี้ว่ามีแผนที่จะลดความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (ที่เรียกว่า PM2.5) จาก 47 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ในปี 2016 ให้เหลือ 35 µg/m3 ภายในปี 2035
“มันยากมากที่จะทำได้ถึงเป้าหมาย และเราจำเป็นต้องใช้ความพยายามให้มากยิ่งขึ้นจึงจะสำเร็จ” Li Ganjie รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าว
เพื่อให้ถึงเป้าหมายจีนได้เร่งการตรวจสอบโรงงานและโรงไฟฟ้าในช่วงสองปีหลังทั่วหลายพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าบรรดาบริษัททั้งหลายจะไม่ฝ่าฝืนกฎหมายการปล่อยมลพิษ
การดำเนินการเช่นนี้อาจจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนได้ แม้รัฐบาลจะอ้างว่าไม่มีผลกระทบใดๆก็ตาม พวกเขาหวังว่าการกวาดล้างบรรดาผู้ก่อมลพิษจะทำให้ประเทศจีนมีน้ำที่สะอาดขึ้น ได้ประโยชน์หลายอย่างจากระบบนิเวศที่ดี และแน่นอนสามารถหายใจได้เต็มปอด
“สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทางระบบนิเวศ หัวหน้าและเจ้าหน้าที่บริหารของพื้นที่นั้นจะต้องรับผิดชอบ” Yang Weimin รองผู้อำนวยการสำนักการเงินและเศรษฐกิจกล่าว “ประชาชนของเราจะต้องสามารถเห็นดวงดาวในเวลากลางคืนและได้ยินเสียงนกร้อง”
“มาตรการพิเศษเหล่านี้ไม่ใช่ทำครั้งเดียวเลิก มันเป็นสิ่งที่เราจะทำกันในระยะยาว” Li ประกาศ “มันพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ดังนั้นเราจะดำเนินมาตรการเหล่านี้ต่อไป”
โรงไฟฟ้าและโรงงานหลายแห่งกำลังปรับตัวไปสู่ระบบใหม่ที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่อีกหลายพันบริษัทกำลังเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นจนหลายแห่งคิดว่าคงต้องปรับไปสู่วิธีทำธุรกิจที่ดีกว่า สง่างามกว่า และปลอดภัยกว่า ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วไม่สร้างความเสียหายแก่สภาพอากาศของประเทศ
“มันเป็นเรื่องใหญ่และจริงจัง ผมคิดว่าพวกเราที่นี่จำนวนมากเชื่อว่ามันจะกลายเรื่องปกติ” Michael Crotty ผู้ส่งออกรายหนึ่งกล่าว “ผู้บริโภคของประเทศจีนไม่ต้องการแม่น้ำที่สกปรก พวกเขาไม่ต้องการเห็นท้องฟ้าสีเทาทุกๆวัน”