นักดาราศาสตร์สามารถใช้ข้อมูลจาก HARPS คำนวณลักษณะของดาวเคราะห์ เช่น มวล คาบการโคจร และระยะห่างจากดาวฤกษ์ เป็นต้น ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ถูกค้นพบโดย HARPS สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากอุปกรณ์และหอดูดาวอื่น รวมทั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่มากของ ESO (Extremely Large Telescope) ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 39 เมตรและเริ่มใช้งานได้ในปี 2024
“การค้นพบครั้งนี้มาจากการเฝ้าติดตามอย่างจริงจังมากกว่า 10 ปีร่วมกับเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทันสมัย” Nicola Astudillo-Defru จากมหาวิทยาลัยเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในทีมค้นพบกล่าว “มีแต่ HARPS ที่มีความแม่นยำมากขนาดนี้และมันเป็นเครื่องมือค้นหาดาวเคราะห์ที่ดีที่สุดตลอด 15 ปีหลังเริ่มใช้งาน”
HARPS พบหลักฐานการคงอยู่ของดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวแคระแดง (Red dwarf) ที่ชื่อ Ross 128 จากข้อมูลที่ตรวจพบทีมงานคำนวณได้ว่า Ross 128 b โคจรรอบดาวฤกษ์ของมันที่ระยะห่างเท่ากับ 1 ใน 12 ของระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
Ross 128 กำลังเดินทางมุ่งหน้ามาสู่ระบบสุริยะของเรา ซึ่งหมายถึงว่า Ross 128 b จะสามารถถอด Proxima b จากตำแหน่งดาวเคระห์นอกระบบที่ใกล้โลกที่สุด (4 ปีแสง) ภายในเวลา 79,000 ปี การค้นพบ Proxima b ถูกประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม 2016 ด้วยความตื่นเต้นกันยกใหญ่ แต่ยังมีข้อสงสัยอย่างมากในศักยภาพของการอยู่อาศัยได้ที่เกิดจากลักษณะของดาวแคระแดง Proxima Centauri ที่เป็นดาวแม่ของมัน
ลักษณะตามธรรมชาติของดาวแคระแดงจะมีความสว่างน้อยกว่าและมีขนาดเล็กกว่าดาวฤกษ์แบบดวงอาทิตย์ของเรามาก แต่บางดวงยังคงสามารถปล่อยเปลวสุริยะที่มีพลังงานมากสาดส่องดาวเคราะห์ที่โคจรรอบมันด้วยรังสีอุลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์ซึ่งจะค่อยๆทำลายชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ได้
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Proxima b อาจไม่เหมาะสมสำหรับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับ Ross 128 กลับเป็นตรงกันข้ามเพราะมันมีสภาพเฉื่อยชาไม่ค่อยมีพลังและไม่คุกคาม Ross 128 b อย่างที่ Proxima Centauri ทำกับ Proxima b
นักดาราศาสตร์กำลังวางแผนจะใช้หอดูดาวรุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในการค้นหาหลักฐานของสิ่งมีชีวิตในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบที่มีขนาดใกล้เคียงโลกที่กำลังโคจรรอบดาวแคระแดง และแน่นอนว่า Ross 128 b จะเป็นหนึ่งในนั้น
ข้อมูลและภาพจาก newatlas, eso.org