ทีมวิจัยที่นำโดย Luciano Iess ที่มหาวิทยาลัย Sapienza University of Rome ประเทศอิตาลี พบว่าสนามแรงโน้มถ่วงที่ผิดปกติหรือไม่สมมาตรในแนวเหนือใต้ของดาวพฤหัสที่เราทราบดีอยู่แล้วแต่ยังไม่รู้สาเหตุนั้นเป็นผลของลมในชั้นบรรยากาศและการไหลของของเหลวภายในดาว
ความเกี่ยวพันดังกล่าวถูกนำไปสำรวจเพิ่มเติมโดยทีมวิจัยที่นำโดย Yohai Kaspi ของสถาบัน Weizmann Institute of Science ในประเทศอิสราเอล ซึ่งได้ศึกษาความไม่สมมาตรของสนามแม่เหล็กของดาวพฤหัสเพื่อหาความลึกของชั้นบรรยากาศ พวกเขาพบว่าความเร็วลมบนดาวพฤหัสลดลงตามระดับความลึกของชั้นบรรยากาศ และค่อยๆหมดไปที่ระดับความลึกราว 3,000 กม.ใต้ระดับเมฆ และชั้นบรรยากาศทั้งหมดของดาวพฤหัสมีมวลประมาณหนึ่งในร้อยหรือ 1% ของมวลทั้งหมด ขณะที่ชั้นบรรยากาศของโลกเรามีมวลน้อยกว่าหนึ่งในล้านของมวลทั้งหมดของโลก
ความสำเร็จในงานวิจัยมาจากข้อมูลการวัดค่าสนามแรงโน้มถ่วงของยานจูโนที่มีความแม่นยำสูงมาก ดีกว่าข้อมูลที่มีก่อนหน้านี้เป็น 100 เท่า การค้นพบใหม่นี้แสดงให้เห็นว่าการวัดค่าสนามแรงโน้มถ่วงที่ละเอียดมากสามารถเผยให้รู้ถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนภายในดาวได้ ซึ่งนับเป็นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดาวพฤหัสแบบก้าวกระโดด
งานวิจัยชิ้นที่ 4 เป็นของทีมจากสถาบัน National Institute of Astrophysics ประเทศอิตาลีที่นำโดย Alberto Adriani ซึ่งได้ศึกษาพายุไซโคลนที่บริเวณขั้วดาวพฤหัสโดยอาศัยข้อมูลการสำรวจด้วยแสงที่มองเห็นและแสงอินฟราเรดของยานจูโน พวกเขาพบว่าพายุหมุนได้จัดกลุ่มสร้างรูปแบบเป็นรูปหลายเหลี่ยม (Polygon) อย่างน่าทึ่งมาก ที่ขั้วเหนือพบว่ามีพายุไซโคลน 8 ลูกหมุนวนรอบพายุไซโคลนตรงกลางลูกหนึ่ง ส่วนที่ขั้วใต้พบว่ามีพายุ 5 ลูกหมุนรอบพายุลูกตรงกลาง
ข้อมูลและภาพจาก futurism, gizmodo