“จุดจบของเอกภพ” คำทำนายสุดท้ายก่อนตายของนักฟิสิกส์ผู้โด่งดัง: สตีเฟน ฮอว์กิง

สัปดาห์ที่ผ่านมาโลกต้องสูญเสียนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ “สตีเฟน ฮอว์กิง” นักฟิสิกส์ผู้โด่งดังที่สุดในยุคนี้ แต่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยวัย 76 ปีเพียงสองสัปดาห์ฮอว์กิงมีงานเขียนทางวิชาการชิ้นสุดท้ายชื่อ A Smooth Exit From Eternal Inflation ซึ่งระบุว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถค้นพบเอกภาพคู่ขนาน และยังทำนายว่าในที่สุดแล้วเอกภพของเราจะค่อยๆเลือนหายกลายเป็นความมืดมิดเมื่อดาวฤกษ์ใช้พลังงานไปจนหมดสิ้น

ผลงานชิ้นสุดท้ายของฮอว์กิงได้รับการตีพิมพ์ควบคู่กับผู้เขียนร่วม Thomas Hertog จากมหาวิทยาลัย KU Leuven ในเบลเยี่ยม ผู้ซึ่งกล่าวถึงฮอว์กิงว่า “เขามักได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลโนเบลและเขาควรได้รับมัน” และกล่าวเสริมว่า “เขาจะได้รับรางวัลโนเบล”

สตีเฟน ฮอว์กิงเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยาผู้มีชีวิตน่าอัศจรรย์ ฮอว์กิงเป็นชาวอังกฤษเรียนจบสาขาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เมื่อปี 1962 แต่ในปีถัดมาตอนที่เขามีอายุ 21 ปี ฮอว์กิงเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และลุกลามรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จนฮอว์กิงเป็นอัมพาตแทบเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกายไม่ได้เลย พูดไม่ได้ ต้องใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงด้วยคอมพิวเตอร์ในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น

ตอนแรกแพทย์บอกว่าเขามีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 2 ปีทำให้ฮอว์กิงทุกข์ใจอย่างหนัก แต่ก็พยายามต่อสู้เรียนต่อจนจบปริญญาเอกสาขาจักรวาลวิทยาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จนได้รับตำแหน่งเมธีลูเคเชียน (Lucasian Professor) ซึ่งเป็นตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์อันทรงเกียรติอันเป็นตำแหน่งเดียวกับไอแซก นิวตันเมื่อ 300 ปีก่อน

ในที่สุดฮอว์กิงได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เขาได้รับความสนใจมากมาย ทั้งที่ต้องอยู่บนเก้าอี้รถเข็นสำหรับคนพิการเกือบตลอดเวลาฮอว์กิงได้เดินทางไปทั่วโลก พบปะกับผู้นำประเทศ ไปเยี่ยมสถานที่ต่างๆรวมทั้งแอนตาร์กติกาและเกาะอีสเตอร์ และยังได้เดินทางกับเที่ยวบินพาราโบลิก (Parabolic fight) เพื่อจำลองสภาวะไร้น้ำหนักด้วย

stephen-hawking-2

ฮอว์กิงเคยบอกว่าเป้าหมายของเขาไม่มีอะไรซับซ้อน มันคือการทำความเข้าใจจักรวาลทั้งหมดว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นและทำไมมันถึงมีอยู่จริง เขาใช้เวลาเกือบตลอดชีวิตค้นหาวิธีที่จะหล่อหลอมทฤษฏีสัมพัทธภาพของไอน์สไตล์ให้เข้ากับทฤษฏีควอนตัมและสร้างทฤษฎีแห่งสรรพสิ่ง (Theory of everything)

การค้นพบทางทฤษฎีที่โด่งดังที่สุดฮอว์กิงคือการค้นพบข้อยกเว้นของกฎทางฟิสิกส์เรื่องหลุมดำซึ่งมีมวลหนาแน่นมากจนกระทั่งแม้แต่แสงก็ไม่สามารถหนีจากแรงโน้มถ่วงของมัน นั่นคือการค้นพบว่าหลุมดำไม่ได้ดำจริงๆ แต่สามารถปล่อยรังสีความร้อนจากกระบวนการระดับอนุภาคซึ่งเล็กกว่าอะตอมที่ขอบของมันและสามารถระเหยออกมาได้ นักวิทยาศาสตร์เรียกการปลดปล่อยทางทฤษฎีดังกล่าวนี้ว่าเป็น “รังสีฮอว์กิง (Hawking radiation)”

ฮอว์กิงเขียนหนังสือขายดีชื่อ A Brief History of Time หรือ “ประวัติย่อของกาลเวลา” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจุดกำเนิดและความเป็นไปของจักรวาล ได้รับความนิยมมากขายได้กว่า 10 ล้านเล่ม ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆกว่า 20 ภาษา แต่หนังสือเล่มนี้ก็มักจะถูกเยาะเย้ยว่ามีชื่อเสียงในเรื่องการได้เป็นเจ้าของมากกว่าการอ่านมัน

ฮอว์กิงเคยพูดไว้เมื่อปี 1990 ว่า “ผมพอจะเป็นส่วนหนึ่งของอัจฉริยะผู้พิการได้ อย่างน้อยผมก็พิการ แม้จะไม่ได้เป็นอัจฉริยะเหมือนกับไอน์สไตน์ สาธารณชนต้องการฮีโร่ พวกเขาทำให้ไอน์สไตน์เป็นฮีโร และตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ผมเป็นฮีโร่ แม้ว่ามันจะมีเหตุผลน้อยเต็มที” บัดนี้ฮอว์กิงได้จากพวกเราไปแล้ว และเขาจะเป็นฮีโร่ในใจพวกเราตลอดไป

 

ข้อมูลและภาพจาก washingtonpost, cnbc

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *